ตัวอย่างการหาสินค้ามาขายบน Amazon วิเคราะห์ตั้งแต่ต้น

โพสนนี้จะเป็น case study จากจุดเริ่มจนถึงจุดจบ จากไอเดียสินค้าแล้วเริ่มต้นวิเคราะห์, ประเมินโอกาสและความเป็นไปได้ในการนำไปขายในอเมซอน เพื่อเป็นไอเดียสำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มต้นครับ

ทุก 1 นาที Amazon USA ขายและจัดส่งสินค้าผ่านระบบมากกว่า 8,000 ออเดอร์

ถ้าคุณยังมีคำถามคาใจว่าจะขายอะไรดี? โฟสนี้จะช่วยคุณหาคำตอบ พร้อมแนวทางในการ เริ่มต้นขายของบน Amazon ด้วยแบรนด์ของเราเอง โดยโฟกัสสองสามประเด็นคือ

1. ทุนเริ่มต้นไม่เยอะ
2. สินค้าในหมวดหมู่อื่นๆ ที่แตกต่างจากกลุ่มสินค้าที่คนไทยนิยมขายกัน
3. วิธีการประเมินโอกาสเบื้องต้นแบบไม่ยากและใช้เวลาน้อย

เริ่มจากผมเห็นโฆษณาในเฟส ที่มันน่าสนใจเพราะ หนึ่งเขารับทำ OEM สองทุนเริ่มต้นไม่สูง

ลองขอดูตัวอย่างสินค้าที่เขาทำแบรนด์ไป หรือลองกดๆ ดูจากคอมเมนก็น่าจะเห็น

เอา main keyword ไปลองค้นหาคร่าวๆ

อย่าเพิ่งโฟกัสที่ main keyword เพื่อส่วนมากคำหลักจะการแข่งขันสูง ให้ลองใส่ filter เพื่อหา longtail keyword ในตัวอย่างผมใส่แค่ ให้มันกรองคำที่ยาวตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมาแสดง (ก็คือให้ตัดคำเดียวๆ ทิ้งไป)

จากนั้นก็ไล่ดูคำที่เกี่ยวข้องกะสินค้าที่ผู้ผลิตเราน่าจะมี

ที่สำคัญเลยคือ อย่าเชื่อ tool ให้เอา keyword ไปลองค้นหาดูจริงๆก่อน – ที่ห้ามลืมคือ จะต้องปรับให้ amazon เป็นอเมริกาก่อน ตามรูป แค่เอาเลขไปรษณีของเมกาใส่เลย

ลองดูส่วนแรกของผลการค้นหา จะเห็นว่ามีโฆษณาในส่วนของแบรนด เป้น banner ใหญ่ และ sponsor ads เต็มครบทั้ง 4 ตำแหน่ง จุดนี้ประเมินได้ว่ามีการแข่งขัน แต่การแข่งขันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป เพราะเมื่อมีการแข่ง นั่นก็บ่งบอกว่ามีกำลังซื้อ

จุดนี่ครับที่เราจะใช้วัดพลัง วัดโอกาส คือให้เลื่อนต่ำกว่าตำแหน่งโฆษณา จะเห็น organic listing ให้ลองดูว่ามี list สินค้าที่รีวิวไม่เยอะ แต่ทะลึ่งติดอันดับดีๆ กะเขามั้ย ในตัวอย่างจะเห็นว่ามีแหลมมา list นึง (คนอื่นเขารีวิวหลักพัน แต่พี่แกหลักสิบก็หลุดมาติดได้) ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่า “เพราะอะไร” ลิสนี้ถึงหลุดมา ผมคิดว่าเป็นไปได้สองส่วนหลักๆ คือ เรื่องเทคนิค (อาจจะมีการดันออเดอร์จากผู้ขาย) และตัว title ของลิสมี บางส่วนของ keyword ที่เราค้นหา – ไอ้สามลิสต้นๆ ไม่มีคำนี้

มาถึงจุดนี้ keyword และสินค้าตัวนี้ดูน่าสนใจครับ มี demand และเราสามารถ supply ได้

รูปสุดท้ายที่ผมคิดว่าฉอยเก็บฉากดีกว่า เพราะใน keyword นี้มี “เจ้าที่” คืออเมซอนขายเองมาในแบบ private label คือในชื่อ Amazon brand และ house brand นั่นก็คือ Whole Food Market