จากร้านเสื้อผ้าบน eBay สู่ตัวแม่ธุรกิจหมื่นล้าน

Work

คลิปวีดีโอสั้นๆ ที่พาผมไปรู้จักกับ 2 สิ่ง

1. GirlBoss
2. Netflix

ซีรีย์ GirlBoss ดัดแปลงจากหนังสือ #GirlBoss ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของ Sophia Amoruso ที่ Forbes จัดอันดับให้เป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดด้วยการสร้างฐานะขึ้นมาด้วยตนเอง Nasty Gal’s Sophia Amoruso Hits Richest Self-Made Women List With $280 Million Fortune

เรื่องราวมันเริ่มต้นจากแจ๊กเกตตัวนั้น ที่ร้านขายเสื้อมือสอง…
เสื้อหนังที่เธอขอซื้อมาในราคา 9 เหรียญ
และขายทำกำไรบนอีเบย์ ด้วยราคาสุดท้ายกว่า 1,000 เหรียญ !!!

จากจุดเริ่มต้นด้วยการขายของมือสองบน eBay สู่เว็บไซด์ Nasty Gal
แหล่งช็อปออนไลน์ของสาววินเทจ สร้างรายได้มากกว่า พันล้านเหรียญต่อปี

เว็บจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Nasty Gal

อะไรทำให้ Sophia สร้างอาณาจักรของเธอได้ยิ่งใหญ่และมีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ ??
นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้ผ่านซีรีย์เรื่องนี้ครับ

5 เรื่องที่คุณจะได้เรียนรู้ผ่านซีรี่ย์​ GirlBoss

1. มากกว่าแค่ขายสินค้า คือการสร้างอารมณ์ร่วมกับแบรนด์

พอพูดถึงคำว่า “แบรนด์” มันคืออีกโลกนึงที่มากกว่าแค่การ “ขายของ” วันต่อวัน
มีหลักการและแนวทางมากมายที่สอนเกี่ยวกับเรื่องของแบรนด์ และในตอนหนึ่งของซีรี่ย์คุณจะได้เห็นความจริงจังและใส่ใจในการคิดชื่อแบรนด์ของ Sophia เพราะชื่อแบรนด์บ่งบอกสไตล์และสร้างอารมณ์ร่วมให้สินค้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์นั้นๆ

ช่วงเวลาแค่ไม่ถึงวินาทีที่เราได้เรารับรู้ชื่อแบรนด์
แต่มันอาจใช้เวลาก่อร่างสร้างตัวตนเป็นปีหรือนานกว่านั้น

ตัวอย่างง่ายๆ
ลองหลับตาแล้วตอบในใจ ว่าคุณรู้สึกอะไรเมื่อได้ยินคำว่า “กระเป๋าหลุยส์” !!??
ผมเชื่อว่ามี 2 คำตอบหลักๆ

1. ไม่รู้จัก
2. หรู

แค่คำสั้นๆ แต่สร้างความรู้สึกและอารมณ์ร่วมแบบน้ันได้ – นี่แหล่ะพลังของแบรนด์

มีตอนหนึ่งในหนังสือ #Girlboss (ชือไทย: เพราะเป็นผู้หญิงไม่แคร์ใคร ฉันถึงได้เป็นนายคน) ที่ผมชอบ

 
“The first thing I did was buy a book: Starting an eBay Business for Dummies, which taught me how to set up my store. The first order of business was to choose a name. Many of the vintage shops already on eBay were so bohemian it hurt, with names like Lady in the Tall Grass Vintage or Spirit Moon Raven Sister Vintage. So the contrarian in me grabbed the keyboard and named my shop-to-be Nasty Gal Vintage, inspired by my favorite album by legendary funk singer and wild woman Betty Davis. … I thought I was just picking a name for an eBay store, but it turned out that I was actually infusing the entire brand with not only my spirit, but the spirit of this incredible woman.”

 
อย่าให้ลูกค้าแค่ซื้อและได้รับสินค้า แต่จงมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ลูกค้าได้เป็นส่วนหนึ่งด้วย 😉

2. เสริมจุดแข็ง

จะเป็นยังไงถ้า Nasty Gal ขายเสื้อผ้าให้กับผู้หญิงทุกสไตล์…
คงไม่ต่างกับแผนกขายเสื้อในโลตัส บิ๊กซี
หรือบางทีเราอาจไม่ได้รู้จักกับ Sophia คนนี้ด้วยซ้ำ

แต่เพราะเธอโฟกัสในสิ่งที่เธอรู้ และสนใจ, นำสิ่งเหล่านั้นร้อยเรียงเข้ากับสินค้า สร้างเป็นรายได้ ความเข้าใจตลาดและอ่านใจลูกค้าได้ คืออีกจุดแข็งของเธอ ที่สร้างให้ Nasty Gal แตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งเราจะเห็นได้จากการตั้งชื่อลิสสินค้า (title) ไปจนถึงการตั้งราคาขาย

จากสินค้าที่เป็นเสื้อผ้าแนววินเทจ พัฒนาไปสู่สไตล์ของตัวเอง
Nasty Gal’s style

3. ไม่กล้าเสี่ยง จะเป็นเสี่ยได้ไง

มีประโยคนึงที่ Mark Manson เขียนไว้ในบทความของเขา เกี่ยวกับเรื่องของความเสี่ยงในชีวิต

People want to be rich without the risk, I wanted the reward and not the struggle. I wanted the result and not the process. I was in love not with the fight but only the victory. And life doesn’t work that way.

จริงที่สุด !!!

คนส่วนมากอยากรวยง่ายๆ เร็วๆ และไม่เสี่ยง
เรารู้ว่ามันไม่จริง แต่ก็พร้อมและหวังให้มันเกิดขึ้นกับเราอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

Sophia เสี่ยงวางเดิมพันทั้งชีวิตกับสิ่งที่เธอทำ แต่เป็นความเสี่ยงแบบมีสติ
ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นธุรกิจขายของออนไลน์ของเธอ ไปพร้อมๆ กับงานประจำ

ผมไม่โลกสวยขนาดที่จะเชียร์ให้ใครสักคนเสี่ยงแบบสุดลิ่มทิ่มประตู กระโดดออกจากงานประจำ มาเริ่มในสิ่งที่ยังไม่รู้หมู่หรือจ่า — เพราะเราสามารถจำกัดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ทำไม “ความเสี่ยง” ถึงน่ากลัว ?
ความไม่รู้ น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญ และยาวิเศษที่แก้อาการไม่รู้ ก็คือ เรียนรู้และลงมือทำ

เรียนรู้แต่ไม่ลงมือทำ – ไร้ค่า bullshit
แต่การลงมือทำโดยไม่รู้อะไรเลย โอกาสที่คุณจะเจ็บตัวสูง – Oh shit

4. เมื่อเจอสิ่งที่ใช่ ใส่ให้เต็มที่

โอกาสมักเดินทางมาหาคนที่มีความพร้อม
เมื่อวันนั้นมาถึง คุณต้องแยกให้ออกว่า อะไรที่เรียกว่า “โอกาส”
ไม่ฉลาดเท่าไหร่ที่จะมองทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ว่านั้นคือโอกาส

ในช่วงวัยหนึ่งคุณจำเป็นต้องเปิดรับหลายสิ่งเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจตัวเอง
แต่เมื่อเวลาผ่าน ประสบการณ์มากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น คุณจำเป็นต้อง “ตัด” หลายสิ่ง และเลือกสิ่งที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับตัวเอง

ที่ต้องยกเรื่อง “การมองโอกาส” เพราะมันคือหนึ่งใน “ตัวปัญหา” ที่มักทำให้เราไขว้เขว
ผมก็เป็นครับ (บ่อยด้วย)
ไอ้นั่นเขาว่าดี ไอ้นี่เขาว่าเด็ด
เราก็โดดตามไป โดยไม่มองดูปัจจัยอื่นๆ

ผลสุดท้าย ด้วยความไม่รู้ ทั้งไม่รู้จักเรื่องนั้นๆ และไม่รู้จักตัวเอง อาจทำให้ต้องเสียเวลาไปกับคำว่า​ “โอกาส”

จริงๆ แล้ว ความลับของความสำเร็จ อาจถูกซ่อนอยู่ในคำว่า FOCUS ก็..เป็น..ด้าาาาย

Follow
One
Course
Untill
Success

5. ล้มได้ แต่อย่าเพิ่งเลิก

“ความสำเร็จชั่วข้ามคืน อาจใช้เวลาหลายร้อยคืนในการสร้าง“
…ใครบางคนกล่าวไว้

คุณเคยพยายามทำบางอย่างด้วยความอดทนและตั้งใจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังมั้ย ?

ผมว่าหลายคนคงมีคำตอบคล้ายๆ กัน
“เคย”

หลายคนล้มเลิก
หลายคนเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น
หลายคนเลือกที่จะหยุด และหันหลังกลับ

ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน
ไม่มีผิด ไม่มีถูก !!

แต่ก่อนที่จะเลิก ลองถามตัวเองก่อนมั้ย ว่าคุณเต็มที่กับมันแค่ไหน ?
อะไรที่ลองแล้ว อะไรที่ยังไม่ได้ลอง ?

ใช่ครับ ล้มได้แต่อย่าเลิกง่ายเกินไป 😉

P.S. Netflix เขาดูฟรีเดือนนึง รีบไปจัดการซะ https://www.netflix.com/th-en/
P.S.S. สำนักพิมพ์ We Learn ได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้แล้ว ติดตามกันได้ตามร้านหนังสือทั่วไป